วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ชาวปะหร่อง


หนุ่มโสดชาวปะหร่อง เมื่ออายุประมาณ 17-25 ปี จะมีคนหนึ่งถูกคัดเลือกให้เป็น “ครู”
“ครู” ไม่ใช่ ครูที่สอนวิชาภาษาไทย ไม่ใช่ครูที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ หรือวิชาสังคม ทว่า “ครู” คือผู้สอนวิชาจีบสาว
“ครู” หนุ่มที่ถูกคัดเลือก จะมีหญิงรุ่นเดียวกันอีกสองคนเป็นผู้ช่วย (ครู)
ลูกศิษย์ที่มาร่ำเรียนวิชาจีบสาว คือ เด็กอายุ 12 ขวบ
เด็กอายุ 12 ขวบ ก็จีบสาวแล้ว?
สำหรับชาวปะหร่องอายุ 12 ถือได้ว่า เป็นวัยที่แต่งงานได้แล้ว
วัตถุประสงค์ของการสอนวิชาจีบสาวก็เหมือนวิชาทั่ว ๆ ไป คือ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เข้าใจจนสามารถนำไปปฏิบัติต่อในสถานการณ์จริงได้โดยไม่กระดากอาย หรือทำผิด ๆ ถูก ๆ
ร่ำเรียนจนจบภาคทฤษฏี จะมีการจับฉลาก ฉลากแต่ละใบเขียนชื่อหญิงสาวหนึ่งคน จับได้ใครก็ต้องไปฝึกภาคปฏิบัติกับคนนั้น ทั้งนี้จึงถือได้ว่าจบหลักสูตร
ผู้ร่ำเรียนจะได้ใช้วิชาฝีมือจริง ๆ ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม ซึ่งจะเป็นช่วงเก็บใบชา
ช่วงเก็บใบชาหนุ่มสาวจะมีโอกาสได้พบปะกัน
พบปะแล้วไยจะปล่อยให้ผ่านเลย เพียงแค่เก็บใบชา

ธรรมเนียมการแต่งกางของชาวปะหร่องออกจะแปลกประหลาดทีเดียว คือ ฝ่ายหญิงต้องหนีตามผู้ชายไป
ผู้ชายจะพาเธอไปอาศัยบ้านญาติ
หญิงสาวจะทิ้งตลับแป้งซึ่งเป็นเครื่องหมายบอกแก่บิตา-มารดาว่า ตนเองได้หนีตามคนรักไปแล้ว
พ่อ-แม่ฝ่ายหญิงเมื่อพบเห็นตลับแป้ง ก็จะเริ่มจัดขบวนตามหาลูกสาว
ทว่าใช้คนเท่าไร ใช้เวลานานเท่าไรก็ไม่มีทางหาเจอ
หาไม่เจอเพราะ ไม่ได้ตั้งใจจะหาให้เจอ
ประเพณีนี้ คือ รู้อยู่แล้วว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน แต่ก็แสร้างเป็นไม่รู้ ลูกสาวอยู่เหนือก็พากันลงใต้ ลูกสาวอยู่ตะวันออก ก็พากันไปตะวันตก
เมื่อ(แสร้าง)ตามหากันพอควรแล้ว ก็จะพากันกลับบ้านของตน
กลับบ้านเพื่อไปพบกับผู้ใหญ่ฝ่ายชาย
ผู้ใหญ่ทั้งสองจะทำการตกลงว่าจะเอาอย่างไร
ตกลงกันได้ก็เสร็จ ตกลงกันไม่ได้ก็อด
ทว่าถ้าตกลงกันได้ ค่าสินสอดไม่ต้องให้สักสตางค์เดียว รับเจ้าสาวกลับบ้านไปได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น: